วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

ชายผู้ร่ำรวยที่สุดของ บาบิโลน (The Richest Man in Babylon) ภาค2


เริ่มเนื้อเรื่องจากหนังสือนั้นมีอยู่ว่าในเมืองบาบิโลน  มีตัวละครหลัก 3 คน คือ โคบีนักดนตรี บันเซอร์คนทำรถม้า และผู้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่วัยเด็ก และอักรา ผู้เป็นมหาเศรษฐีแห่งนครบาบิโลน
โคบีและบันเซอร์มีความสงสัยว่าเพราะอะไร  ทั้งสองขยันทำมาหากินเท่าไรก็ไม่ รวยสักทีนั้น ดังนั้นจึงไปขอคำปรึกษาจากอักราถึงเคล็ด ลับที่ทำให้รวย เมื่อเริ่มสนทนา โคบีและบันเซอร์ก็ได้บอกอักราว่าเขานั้นโชคดีที่ร่ำรวย แต่อักรา ตอบว่าความรวยของเขาไม่ได้เกิดมาจากโชคลาภ  และไม่คิดว่าโชคจะสามารถทำให้ใครรวยได้ และสาเหตุที่เพื่อนทั้งสองไม่ร่ำรวยนั้นเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้กฎที่ทำให้ร่ำรวยต่างหาก อักราได้เล่าให้เพื่อนทั้งสองฟังว่า เมื่อเขาเป็นเด็กได้พบเห็นเศรษฐีผู้หนึ่งที่มีความสุข  คือความร่ำรวย เพราะความร่ำรวย นำมาซึ่งอิสรภาพที่จะทำ และมีในทุกสิ่งได้ตามใจปรารถนา   ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะต้องรวยให้ได้ อยู่มาวันหนึ่งเขาต้องทำงานชิ้นหนึ่ง ให้กับเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในบาบิโลนในขณะนั้น เขาจึงขอให้เศรษฐีสัญญาว่า หากเขาทำงานเสร็จทันเวลาเศรษฐีจะสอนหนทางสร้างความรวยให้ เศรษฐีตกลง ฉะนั้นเมื่อเขาทำงานเสร็จเศรษฐีจึงบอก

เริ่มกฎข้อแรกกัน
กฎข้อที่ 1 ว่า ต้องจ่ายหรือให้รางวัลแก่ตัวเองด้วยการกัน 1 ใน 10 ของรายได้ไว้ก่อนที่จะใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการจ่ายเงินให้กับคนอื่น เศรษฐียังบอกอีกว่า ความร่ำรวยก็เหมือนต้นไม้ซึ่งงอกออกจากเมล็ด ยิ่งเราเริ่มหว่านเมล็ดเร็วเท่าไรต้นไม้ก็จะยิ่งโตเร็วขึ้นเท่านั้น

เมื่ออักราเริ่มสอนกฎเกี่ยวกับการเก็บ 10% ของรายได้ไว้ให้ตัวเองก็มีคนแย้งว่า จะทำได้อย่างไรเพราะรายได้ในขณะนั้น ก็ยังไม่พอกับค่าใช้จ่ายประจำวันเลย อักราจึงบอกว่า สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันมักไม่เกินรายได้ ฉะนั้นจงใช้จ่ายแต่เฉพาะเพื่อสิ่งที่จำเป็นจริงๆ มิใช่ใช้จ่ายเพราะอยากได้ เนื่องจากคนเรามีความอยากไม่สิ้นสุดฉะนั้นเราต้องหาทางจำกัดความอยากของเรา ด้วยการทำงบประมาณการใช้จ่ายอย่างละเอียด เพราะมันจะทำให้เราเห็นจุดรั่วไหล และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น (สิ่งที่จำเป็นในการดำรงนชีวิตมักจะราคาถูกเสมอและรัฐบาลมักจะควบคุม)

ท่าน ว.วชิรเมธี  กล่าวไว้ว่า  จงซื้อเพื่อประโยชน์ใช้สอย  อย่าซื้อเพราะประโยชน์ใช้สวย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น